Evil Dead: ผู้พัฒนาเกมมีข่าวร้ายสำหรับนักเล่นเกม Switch

Evil Dead: ผู้พัฒนาเกมมีข่าวร้ายสำหรับนักเล่นเกม Switch

Evil Dead: The Game จะไม่วางจำหน่ายบน Switch อีกต่อไป โดย Saber Interactive ยืนยันว่าได้ยกเลิกแผนการที่จะย้ายเกมไปยังคอนโซลไฮบริดของ Nintendo นอกเหนือจากการแจ้งข่าวร้ายเพิ่มเติมสำหรับแฟนๆ การประกาศดังกล่าวมาถึงเพียง 16 เดือนหลังจาก Evil Dead: The Game เผยแพร่สู่บทวิจารณ์ที่เป็นที่ชื่นชอบเป็นส่วนใหญ่

แม้ว่าการผูกมัดวิดีโอเกมภาพยนตร์ไม่ได้มาพร้อมกับการรับประกันคุณภาพอย่างแน่นอน แต่แฟรนไชส์ ​​​​Evil Dead มีโชคมากกว่าส่วนใหญ่ นั่นอาจเป็นเพราะประวัติอันยาวนานในความมุ่งมั่นที่จะสร้างเกมแยกแบบอินเทอร์แอคทีฟ

Evil Dead: The Game เป็นการดัดแปลงครั้งที่ 10 นับตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษที่ 80 แฟนๆ และผู้วิจารณ์ต่างชื่นชมการผสมผสานระหว่างความสยองขวัญเอาชีวิตรอดและองค์ประกอบผู้เล่นหลายคน ซึ่งรวมถึงเนื้อหาที่ให้ความร่วมมือและการแข่งขัน

Saber Interactive ได้ยุติการสนับสนุนเกม Evil Dead ล่าสุดแล้ว โดยจะมีผลทันทีหลังจากที่มีการประกาศข่าวมากมายบนโซเชียลมีเดีย สตูดิโอที่อยู่ในฟลอริดาจะไม่เผยแพร่เนื้อหาเพิ่มเติมใด ๆ สำหรับชื่อนี้ และยังได้ยกเลิกพอร์ต Nintendo Switch ที่ได้รับการประกาศครั้งแรกในช่วงปลายปี 2020 ด้วย

บริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการตัดสินใจ เพียงแต่ให้ความมั่นใจกับที่มีอยู่ ฐานผู้เล่นจะไม่ปิดเซิร์ฟเวอร์ Evil Dead: The Game ใน “อนาคตอันใกล้” การสิ้นสุดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องไม่ได้หมายความว่า Sabre จะหยุดแก้ไขข้อบกพร่องร้ายแรง หากปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นตราบใดที่ชื่อยังคงสามารถเล่นได้

แฟน ๆ บางคนได้ใช้โซเชียลมีเดียเพื่อแสดงความผิดหวังกับการประกาศครั้งนี้ ไม่น้อยเพราะหลายคนรู้สึกว่า Evil Dead: The Game ยังมีชีวิตเหลืออีกมาก และถึงแม้ว่า Saber จะไม่แนบบริบทที่กว้างขึ้นในการตัดสินใจ

ความจริงที่ว่าการหยุดการสนับสนุนเกมถ่ายทอดสดอายุ 16 เดือนอย่างแข็งขันนั้น ถือเป็นตัวบ่งชี้ที่ค่อนข้างชัดเจนว่าเกมแบบผู้เล่นหลายคนนั้นขึ้นอยู่กับฐานผู้เล่นโครงกระดูก การเคลื่อนไหวเช่นนี้มักจะไม่เกิดขึ้นในสุญญากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นเรื่องของบริษัทที่มีพนักงานหลายพันคนที่คุ้นเคยกับการสับเปลี่ยนระหว่างหลายโครงการและมีทรัพยากรในการดูแลรักษา

เนื่องจาก Saber ได้ยุติการสนับสนุนเกม Evil Dead: The Game แล้ว จึงไม่เป็นการยืดเยื้อมากนักที่จะสรุปได้ว่าการสร้างเนื้อหาเพิ่มเติมนั้นไม่คุ้มค่า